Friday, November 14, 2014

[8thAug] Regular Event No.1 : first of 8th






เอนทรี่ย์นี้เป็นส่วนหนึ่งของ





9 สิงหาคม 1908


                ฉันจรดปลายปากกาทันที แทบจะในวินาทีแรกที่ว่างเว้นจากการรักษา ในกรณีนี้ ฉันย่อมหมายความถึง “ไม่มีใครที่ฉันจะต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด” ต่างหาก ไม่มีอาหารใดๆตกถึงท้องตั้งแต่เมื่อวาน ยกเว้นแต่ซุปที่ถูกทิ้งไว้เสียจนเย็นชืด และสุราปริมาณหนึ่ง ความแปลกประหลาดและความสงสัยทำให้ฉันปราศจากความต้องการต่ออาหาร นี่อาจจะเป็นนิสัยเสียที่ฉันคงแก้ไม่ได้ ตั้งแต่ครั้งยังศึกษาอยู่ที่เพนซิลวาเนีย

                ดีร์ชาดยังคงทำให้ฉันประหลาดใจได้เสมอ เมืองขนาดย่อมกว่าหากเทียบกับบ้านเกิดของฉันแห่งนี้มักจะเต็มไปด้วยเรื่องพิศวงไม่ว่างเว้น นี่ก็คงเป็นอีกหนึ่งในความพิศวงของดีร์ชาดที่ทำให้ฉันทั้งนึกรักและนึกชังเมืองแห่งนี้ขึ้นมาไม่มากไม่น้อย ใช่ เป็นความพิศวงที่ฉันต้องอาศัยการจดบันทึกเพื่อยืนยันว่านี้ไม่ใช้เพียงความฝันของฉันแต่เพียงผู้เดียว

                คนไข้ทั้งหมดบนเตียงอันตรธานหายไปเพียงชั่วขณะที่ฉันปลีกตัวออกไปสู่ห้องครัว ข้าวของที่ระเกะระกะกลับสู่ความเป็นระเบียบด้วยตัวของมันเอง หากเหตุประหลาดมีเพียงเท่านั้นฉันคงไม่ให้ค่าของวันนี้มากถึง “ความพิศวงแห่งดีร์ชาด” หรอก เพียงครู่เดียวที่ฉันยังสับสน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครา กลับกันที่เบื้องหน้าประตูนั้นเป็นชายสูงวัยท่าทางเหนื่อยหอบในชุดนอนที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเขม่าเศษดิน ในอ้อมแขนของเขาอุ้มร่างหญิงสาวอายุน้อยที่หอบหายใจรวยระรินเคล้ากับสียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด หน้าท้องของเจ้าหล่อนนูนหนาออกมาจนคล้ายจะระเบิด ขณะที่โลหิตสดๆกลิ่นความข้นไหลอาบเต็มสองข้างหว่างขาและท่อนแขนของผู้เป็นสามี คงไม่อาจเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นว่าความพิศวงได้ หากว่าฉันไม่ได้เห็นหญิงสาวผู้นี้สิ้นลมหายใจไปต่อหน้า ด้วยสายตาของตนเองเมื่อวานนี้ แต่ความเป็นและความตายของชีวิตหนึ่งย่อมมีค่ามากเกินกว่าที่ฉันจะเสียเวลาถามไถ่ให้มากความ สิ่งที่ฉันทำต่อไปคือเชื้อเชิญพวกเขาทั้งคู่เข้ามาอย่างเช่นแพทย์ทั่วไปจะต้องทำ

                เธอยังคงมาหาฉันพร้อมอาการแท้งและตกเลือด ผิวกายที่ซีดเซียวและมือของสองคนทุ่มจับแน่น สถานการณ์ที่ฉันต้องเผชิญแทบไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเมื่อวาน แม้กระทั่งทุกๆรายละเอียดเล็กน้อยเท่าที่ฉันจะสังเกตได้ ก่อนที่เสียงเคาะประตูจะดังขึ้นอีกหน ในขณะที่ฉันกำลังดึงร่างไร้วิญญาณของเด็กน้อยผู้น่าเวทนาออกมาจากร่างกายมารดา

                บานประตูของฉันถูกกระหน่ำเคาะ ด้วยจำนวนครั้ง และจังหวะเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อวาน อีกครั้ง และ อีกครั้ง ราวกับว่าเป็นหน้าบันทึกที่ถูกอ่านซ้ำอีกหน

                หากฉันเพิ่งเคยเหยียบย่างเข้ามาในเมืองแห่งนี้เป็นครั้งแรก เหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะทำให้ฉันคลั่งจนอาจจะเสียสติ เพียงแต่ว่าระยะเวลาที่ฉันอาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้นั้นนานพอที่จะทำให้ใจชินชากับเหตุพิศวงที่เกิดขึ้นจนปราศจากความตื่นตระหนกใดๆ นอกจากเพียงแค่เลิกคิ้ว แล้วตั้งคำถามอย่างเหนื่อยหน่ายว่า”อีกแล้วหรือ”

                หากการคาดเดาของฉันไม่ผิดพลาด ดีร์ชาดคงไม่ปล่อยให้เรื่องพิศวงนี่จบลงเพียงแค่คืนเดียว

                และฉันก็คงจะไม่แปลกใจ หากเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นอีกในอนาคตซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพียงแต่ ฉันเองก็ยังคงอยากรู้ว่า ความพิศวงครั้งนี้จะจบลงเมื่อใด

                และจะเป็นไปได้หรือไม่ ที่มีผู้อื่นนอกจากตัวฉัน ที่ถูกผลักออกจากกระแสแห่งความพิศวงดังกล่าว

                ดูดูชาบูก็คงเป็นหนึ่งในนั้น เพราะจนบัดนี้ เขาก็ยังไม่กลับมา และอาจจะเช่นเดียวกับคุณฮามิลตัน ที่ไม่ได้แวะเวียนมาอีกเป็นหนที่สองอย่างควรจะเป็น

                หากฉันละทิ้งตำแหน่งหน้าที่ของตน และทำสิ่งที่แตกต่างออกไปจากวันที่ 8 สิงหาคม จะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ ฉันอดกังขาในใจไม่ได้


                ฉันควรจะออกตามหาเด็กหนุ่มผู้นั้นก่อนที่อรุณใหม่จะมาเยือน






                และมันคงจะดีกว่านี้อยู่ไม่น้อย หากว่าความพิศวงจะช่วยเติมเต็มขวดเหล้าที่ร่อยหรอของฉันด้วยสุราเช่นเดียวกับที่มันได้เติมเต็มหม้อซุปและบรรดาขวดยาที่ถูกใช้ไป















No comments:

Post a Comment